หน่วยที่ 5 งานบริการและซ่อมเครื่องใช้ ไฟฟ้าที่ใช้มอเตอร์

​

5.1 งานบริการและซ่อมเครื่องซักผ้า

 

สาระสำคัญ

​

เครื่องใช้ไฟฟ้ามีบทบาทสำคัญในชีวิตประจำวัน ส่วนใหญ่จะเป็นเครื่องทุ่นแรง หรืออำนวยความสะดวก เพื่อให้ผู้ใช้มีความสะดวกสบาย มีเวลาพักผ่อน หรือไปทำงานอื่น ๆ ได้

 

โครงสร้างและส่วนประกอบของเครื่องซักผ้า ส่วนประกอบหลักของเครื่องซักผ้าอัตโนมัติมีดังต่อไปนี้

1. วาล์วน้ำเข้า มีหน้าที่หลักคือการป้อนเครื่องซักผ้าหรือที่เรียกว่าวาล์วฉีดน้ำ วาล์วทางเข้าส่วนใหญ่ประกอบด้วยวาล์วทางเข้าและแม่เหล็กไฟฟ้า

2 สวิตช์ระดับ หรือเซ็นเซอร์ระดับน้ำ มีหน้าที่คือการตรวจสอบระดับน้ำในถัง

3. โซลินอยด์วาล์วระบายน้ำ หรือแทรคเตอร์ระบายน้ำ หน้าที่หลักคือระบายเครื่องซักผ้า

4 คลัช เป็นส่วนสำคัญของเครื่องซักผ้าอัตโนมัติอย่างเต็มที่และเป็นตัวกระตุ้นหลักสำหรับ ในการซัก การทําให้แห้งและการเบรก

5 สวิตช์ความปลอดภัย หรือที่เรียกว่าสวิตช์ครอบ ฟังก์ชั่นคือเมื่อจำเป็นต้องมี การคายน้ำเฉพาะเมื่อปิดฝาสวิตช์จะเปิดและมอเตอร์จะทำงาน หากฝาครอบด้านบน ของเครื่องซักผ้าไม่ได้รับการปกป้องในระหว่างการคายน้ำสวิตช์เปิดจะถูกปิดและวงจร แหล่งจ่ายไฟของมอเตอร์ถูกตัดออกมอเตอร์จะหยุดทำงาน

6. มอเตอร์อินเวอร์เตอร์ เป็นอุปกรณ์สำหรับแปลงพลังงานไฟฟ้าเป็นพลังงานกล และเครื่องซักผ้าอัตโนมัติเต็มรูปแบบใช้มอเตอร์ตัวเดียวซักและอบแห้ง

7. บอร์ดเครื่องซักผ้าอัตโนมัติ หรือ แผงควบคุม เป็นศูนย์ควบคุมของเครื่องซักผ้า ซึ่งสามารถใช้งานและคำสั่งการทำงานของเครื่องซักผ้าได้อย่างสมบูรณ์

​

การตรวจสอบหาสาเหตุข้อบกพร่องของเครื่องซักผ้า

1. อาการมอเตอร์ถังซักไม่หมุน ถังปั่นแห้งใช้ได้ปกติ

วิธีตรวจสอบ

1.1 ตรวจสอบสายมอเตอร์ถังซักว่าขาดหรือไม่ หากขาดให้ท่าการตรวจซ่อม

1.2 ตรวจสอบสวิตช์ TIMER WASH หากเสียจะไม่ได้ยินเสียงเฟืองและกลไก ทํางาน หน้าสัมผัสสวิตช์ไม่แตะ ไฟไม่สามารถไหลเข้าขดลวดมอเตอร์ซักผ้าได้

 1.3 ตรวจสอบคอนเดนเซอร์สตาร์ท หากเสียจะทำให้มอเตอร์ ไม่สามารถ ออกตัวหมุนได้เวลาเปิดเครื่องให้ทดลองใช้มือหมุนแกนมอเตอร์ ถ้ามอเตอร์ หมุนต่อไปได้แสดงคอนเดนเซอร์ เสีย หรือถอดคอนเดนเซอร์มาวัดก็ได้ 1.4 ตรวจสอบหากมอเตอร์ไหม้ ให้เปลี่ยนมอเตอร์ หรือพันมอเตอร์ใหม่

 

2.อาการมอเตอร์ถังซัก หมุนช้า ใส่ผ้ามากไม่หมุน บางครั้งหมุนบ้างไม่หมุนบ้าง

วิธีตรวจสอบ

2.1 มอเตอร์ไม่มีกำลัง ทดลองเปิดเครื่องใช้มือจับแกนปั่นผ้า มอเตอร์ หยุดหมุน ลักษณะไม่มีกำลัง แสดงว่ามอเตอร์เสีย ให้เปลี่ยนมอเตอร์หรือ ถอดมอเตอร์ใหม่

2.2 ตรวจสอบบูช และทดลองหมุนแกนปั่นผ้าดู หากรู้สึกหมุนผิด ๆ แสดง ว่าบูชสึกให้ถอดมอเตอร์ออกมาเปลี่ยนบูทตัวใหม่ พร้อมหยอดน้ำมัน

 

3. อาการซักผ้ามีเสียงเสียดสี มีน้ำรั่วลงด้านล่างของถัง

วิธีตรวจสอบ

3.1 ตรวจสอบซีลบูชกันน้ำหากสึกหรือชำรุด ต้องเปลี่ยนซีลใหม่ โดยต้องถอด มอเตอร์ออกด้วย ถึงจะเปลี่ยนซีลตัวใหม่ได้

 

4. อาการได้ยินเสียงมอเตอร์หมุน แต่แกนปั่นผ้าไม่หมุน

วิธีตรวจสอบ

4.1 ตรวจสอบสายพานขาดหรือสายพานหลุมหรือไม่หากขาดให้เปลี่ยนสาย พานมอเมอร์ใหม่

4.2 ตรวจสอบเฟืองใส่สายพานหากชำรุดหรือแตกหัก ให้เปลี่ยนใหม่

 

5.อาการถังปั่นผ้าไม่หมุน ถังซักผ้าใช้ได้ปกติ

วิธีตรวจสอบ

5.1 ตรวจสอบสายไฟที่ต่อกับถังปั่นหากขาดให้ต่อสายให้ถูกสี

5.2 ตรวจสอบสวิตช์เซฟตี้ SW1 สกปรก ขาด หัก ให้ทำความสะอาด หรือ เปลี่ยนใหม่

5.3 ตรวจสอบสวิตซ์ TIMER หากเสียกลไกเฟืองไม่ทํางานไม่ได้ยินเสียง

5.4 ตรวจสอบคอนเดนเซอร์สตาร์ท หากเสียจะทำให้มอเตอร์ออกตัวหมุนไม่ได้

5.5 ตรวจสอบหากมอเตอร์ไหม้ ให้เปลี่ยนมอเตอร์ หรือพันมอเตอร์ใหม่

 

6.อาการถังซักน้ำรั่ว เก็บน้ำไม่อยู่

 วิธีตรวจสอบ

6.1 ลูกยางมีเศษผงติดค้าง ถอดมาทำความสะอาด

6.2 ลูกยางแข็งปิดน้ำไม่อยู่ ต้องเปลี่ยนลูกยางใหม่

6.3 ไม่มีกำลังกดลูกยาง เปลี่ยนสปริงใหม่

 

7.อาการเครื่องซักผ้าสั่น

วิธีตรวจสอบ

7.1ให้สังเกตดูว่า สั่นเกิดจากส่วนใดของเครื่อง

7.2 สั่นเกิดจากมอเตอร์ไม่แน่น

7.3 ลั่นเกิดจากตัวถังยึดไม่แน่น

 

การซ่อมบำรุงรักษาเครื่องซักผ้า

1. ล้างเครื่องซักผ้าอย่างน้อยเดือนละ 1 ครั้ง โดยที่เปิดเครื่องซักผ้ากดที่โหมดล้างถังซักใช้น้ำร้อนล้างถังซักโดยที่ไม่ต้องใส่ ผงซักฟอก น้ำร้อนจะช่วยกำจัดกลิ่นและสิ่งสกปรกให้ออกไปจากเครื่องซักผ้า

2.ทําความสะอาดช่องใส่ผงซักฟอก ช่องใส่ผงซักฟอกหรือน้ำยาปรับผ้านุ่ม ควรทำความสะอาดหลัง การซักทุกครั้ง

3.อย่าใส่ผ้าให้แน่นจนเกินไป เครื่องซักผ้าจะมีขนาดของถังซักที่กำหนดไว้ จึงไม่ควรที่จะใส่ผ้าจำนวน มากจนเกินไป เพราะจะทำให้เครื่องซักผ้ารับน้ำหนักมาก ออกแรงมากเกินไป ซึ่งจะเป็นสาเหตุทำให้เครื่องซักผ้าทำงานหนัก ทำให้มอเตอร์ชำรุดได้

4. ตรวจสอบสิ่งของที่อาจจะลืมไว้ในเสื้อผ้า ควรตรวจสอบสิ่งของในเสื้อผ้าก่อนลงเครื่องซักผ้า เพราะจะทำให้เครื่องซักผ้า เสียหายชำรุดได้

5.อย่าทิ้งผ้าที่ซักเสร็จไว้ในเครื่องนานเกินไป การทิ้งผ้าที่ซักเสร็จไว้ในเครื่องนานเกินไปนั้น จะก่อให้เกิดความอับชื้น เป็นสาเหตุที่จะทำให้เกิดเชื้อราและกลิ่นเหม็นอับกับผ้า 6. ตรวจสภาพเครื่องซักผ้าอย่างสม่ำเสมอ ควรตรวจสอบสภาพของเครื่องซักผ้าอย่างสม่ำเสมอ อย่างเช่น ค่อยฟังเสียง สังเกตน้ำรั่ว ถังซักปั่นได้ปกติหรือไม่ ถ้าเกิดความเสียหายตรงไหนควรเปลี่ยน อะไหล่โดยทันที